เคล็ดลับการเงินส่วนบุคคล วิธีเก็บออมเงิน 4 สัดส่วน ให้เงินเดือนไม่ชนเดือน | SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  เก็บออมเงินยังไง ให้เงินเดือนไม่ชนเดือน ลองปรับนิสัยแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วน

เก็บออมเงินยังไง ให้เงินเดือนไม่ชนเดือน ลองปรับนิสัยแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วน

8 พ.ค. 2568

แชร์:

Facebook Icon Twitter Icon Line Icon

เคยไหม? เงินเดือนเพิ่งออกได้ไม่กี่วัน เงินก็หายวับไปกับตา พออยากเก็บออมก็ไม่มีเหลือ

ทั้งที่รายได้ก็เพิ่มขึ้นทุกปี แต่เงินเก็บกลับเท่าเดิม... หรืออาจจะน้อยลงด้วยซ้ำ

ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากเงินเดือนน้อยเกินไป แต่เกิดจาก การไม่มีแผนการเงินที่ดีพอ

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก "วิธีแบ่งเงินในบัญชีอย่างมีระบบ" เพื่อให้มี เงินเก็บ แบบยั่งยืน และหลุดพ้นจากวังวน "เดือนชนเดือน" ได้จริง

 

ทำไมถึงเก็บเงินไม่ได้ แม้เงินเดือนเพิ่ม?

หลายคนคิดว่า "รอเงินเดือนขึ้นก่อน แล้วค่อยเริ่มเก็บเงิน" แต่ความจริงคือ พอเงินเดือนเพิ่ม ค่าใช้จ่ายก็มักเพิ่มตามไปด้วย ผลที่ตามมา? เก็บเงินไม่อยู่เหมือนเดิม!

ลองสังเกตดู:

  • เงินเดือนออก ใช้จ่ายหนัก กินหรู เที่ยวบ่อย
  • กลางเดือน เริ่มประหยัด
  • สิ้นเดือน เหลือแต่เศษเงิน

หากคุณวนลูปแบบนี้ซ้ำ ๆ นี่คือสัญญาณว่า คุณต้องวางแผนเก็บเงินอย่างจริงจังแล้ว

 

สูตรแบ่งเงิน 4 ส่วน เพื่อเก็บเงินได้ทุกเดือน

 

how-to-save-money-50-20-20-10-technique

 

การวางแผนการเงินที่ดีเริ่มจากการ แบ่งเงินเดือนออกเป็นสัดส่วน ที่ชัดเจน เป็นพื้นฐานของวินัยทางการเงินที่นำไปสู่ความมั่นคงในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยให้วางแผนอนาคตได้อย่างมีเป้าหมายและยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในส่วนนี้จะแนะนำถึงการแบ่งเงินเป็น 4 ส่วนยังไงให้สามารถจัดการรายจ่ายและมีเงินเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

1. แบ่งเงินสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น (50%)

ค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเช่าบ้าน, ค่าน้ำ-ไฟ, ค่าเดินทาง, ค่าอาหาร คือสิ่งที่ต้องมีอยู่แล้ว ควรจำกัดให้อยู่ในกรอบ 50% ของรายได้เท่านั้น เพื่อไม่ให้รุกล้ำเงินส่วนอื่น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เป็นรายปี เช่น ค่าประกันรถยนต์ หรือค่าส่วนกลางคอนโดมิเนียม มักเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่หากไม่วางแผนล่วงหน้า จะกระทบกับการเงินในเดือนนั้น ๆ

ตัวอย่าง:

  • ค่าประกันรถยนต์ปีละ 24,000 บาท ควรแยกเก็บเงินเดือนละ 2,000 บาท
  • ค่าส่วนกลางคอนโดมิเนียมปีละ 20,000 บาท ควรแยกเก็บเงินเดือนละ 1,666 บาท

การเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้สามารถทำได้ผ่านกองทุนรวมตลาดเงินหรือ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เพื่อสะสมไว้ทุกเดือน และเมื่อถึงกำหนดจ่ายก็สามารถนำเงินที่เก็บไว้มาใช้ได้ทันทีโดยไม่กระทบกระเทือนการเงินรายเดือน

 

2. แบ่งเงินสำหรับออมและลงทุน (20%)

การออมเงินและการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว การแบ่งเงินออมเพื่อการลงทุนช่วยให้เงินเติบโตได้มากกว่าเก็บเงินไว้เฉย ๆ เป็นช่องทางสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว เอาชนะเงินเฟ้อ และช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น

ตัวอย่าง:

  • เงินสำรองฉุกเฉิน ควรเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ยงต่ำ และสามารถเบิกมาใช้ได้เมื่อจำเป็น
  • เงินออมระยะยาวสำหรับการศึกษาบุตรหรือเพื่อการเกษียณอายุ สามารถใช้ประกันออมทรัพย์เป็นเครื่องมือช่วยให้ออมได้สำเร็จ มีวินัย และยังได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติม

การเลือกเครื่องมือการเงินที่เหมาะสมกับเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การออมและการลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต

Tip: หากคุณไม่มั่นใจว่าจะลงทุนอะไร ให้เริ่มจาก "ออมก่อนคิดลงทุน" เช่น ฝากประจำ หรือใช้บริการหักเงินอัตโนมัติ

 

3. แบ่งเงินสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อความสุข (20%)

ค่าใช้จ่ายเพื่อความสุข เช่น การท่องเที่ยว การรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือการซื้อของที่ชื่นชอบ ควรเป็นเงินที่เหลือจากการกันไว้สำหรับค่าใช้จ่ายรายปีและการออม แม้ว่าเงินสำหรับส่วนนี้อาจจะน้อย แต่หากมีการวางแผนและใช้จ่ายอย่างมีสติ และคำนึงถึงประโยชน์จากการใช้เงิน ก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขโดยไม่กระทบกับเป้าหมายทางการเงิน

Tip: แต่! ต้องไม่เกินงบส่วนนี้ ไม่ควร "รูดบัตรก่อน ค่อยคิดทีหลัง"

 

4. แบ่งเงินใช้ยามเกษียณ (10%)

เมื่อถึงวัยเกษียณ รายได้ประจำจะหายไป แต่รายจ่ายยังคงอยู่ การมีเงินเก็บไว้ใช้จึงเป็นเกราะป้องกันชีวิตไม่ให้ลำบาก การวางแผนเกษียณตั้งแต่วันนี้คือการมอบความมั่นคงให้ตัวเองในอนาคต ไม่ต้องพึ่งพาใคร และใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายอย่างอิสระและมีคุณภาพอย่างที่ควรได้รับ

Tip: แนะนำให้แยกบัญชีไว้ต่างหาก และโอนเงินเข้าทุกเดือนแบบอัตโนมัติ

 

สรุปการวางแผนแบ่งเงินให้มีเงินเก็บและเกิดประโยชน์

การแบ่งเงินในบัญชีอย่างเป็นระบบจะช่วยให้คุณสามารถจัดการรายจ่ายและมีเงินเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจาก การวางแผนค่าใช้จ่ายรายปี การออมและการลงทุน การใช้จ่ายเพื่อความสุข และยามเกษียณ อย่างมีสติ หากคุณสามารถปฏิบัติตามแนวทางนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากวงจรเงินเดือนชนเดือน และมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวอย่างแน่นอน