วิกฤตวัยกลางคน (Midlife Crisis) ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ

ชีวิตสอนให้เราเรียนรู้ว่า ความฝันที่สวยงามในวัยเด็ก อาจไม่เป็นดั่งฝันเมื่อเติบโตขึ้น กว่าจะตระหนักรู้ก็เริ่มเข้าสู่วัยกลางคนเสียแล้ว เป็นเหตุผลว่า ทำไมคนวัยกลางคนมักต้องเผชิญกับวิกฤตของช่วงวัย หรือที่เรียกว่า Midlife Crisis นั่นเอง

วิกฤตวัยกลางคน คืออะไร 

Midlife Crisis หรือ วิกฤตวัยกลางคน คือ ภาวะที่ไม่ว่าชายหรือหญิงที่อยู่ในช่วงวัย 35-50 ปี มักต้องเผชิญกับความรู้สึกท้อแท้ คิดทบทวน ค้นหาความสุขไม่เจอ บางคนมีปัญหาสุขภาพรุมเร้า เมื่อความคิดเริ่มติดลบขึ้นเรื่อย ๆ ก็ย่อมส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจในที่สุด

วิกฤตวัยกลางคน เกิดขึ้นในช่วงอายุไหน มีสาเหตุจากอะไร

เมื่อก่อนที่โซเชียลมีเดียไม่ได้เข้ามามีอิทธิพลในสังคม วิกฤตวัยกลางคนเกิดขึ้นในช่วงอายุ 45-65 ปี แต่เมื่อผู้คนหันมาเสพสื่อกันมากขึ้น ทำให้เมื่ออายุเพียง 35-50 ปี สามารถเผชิญกับวิกฤตวัยกลางคนได้แล้ว โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้

• ร่างกายเสื่อมถอย

  อายุที่เพิ่มมากขึ้น สิ่งผิดปกติอย่างแรก คือ ความผิดปกติของร่างกาย เช่น ปวดเมื่อย ,กระดูกลั่น ,ลุกนั่งลำบาก หรือป่วยง่าย เป็นต้น เมื่อร่างกายเริ่มเสื่อมถอย จิตใจก็เริ่มห่อเหี่ยวตามมา ทำให้เกิดภาวะคิดลบกับชีวิตได้ง่าย

• ฮอร์โมนเปลี่ยน

  ฮอร์โมนส่งผลต่อความรู้สึกโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยทอง จะเห็นความผิดปกติในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เช่น ทำงานได้ช้าลง ,หงุดหงิดง่าย ,ความต้องการทางเพศลดลง ส่งผลให้รู้สึกเบื่อหน่ายตัวเอง

• การสูญเสียคนใกล้ชิด

  เมื่อต้องเผชิญกับการสูญเสียคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นปู่ย่า ,ตายาย ,พ่อแม่ ,ญาติคนสนิท ,เพื่อนฝูง หรือคนที่นับถือ ย่อมกระทบต่อจิตใจ ทำให้รู้สึกเคว้งคว้างได้

• ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น

  ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จำเป็นต้องใช้ความอดทน เข้าใจ ใส่ใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อใช้ชีวิตคู่มาสักระยะหนึ่ง อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น ความเบื่อหน่าย ,ความไม่เข้าใจกัน ,ความคิดเห็นไม่ตรงกัน นำมาสู่ปัญหาชีวิตคู่อย่างการหย่าร้างได้

• หน้าที่การงานไม่เติบโต

  เส้นทางชีวิตที่นำไปต่อยอดความสำเร็จด้านอื่น ๆ ส่วนมากเริ่มต้นจากหน้าที่การงาน เพราะเมื่อทำงานไปสักระยะ รุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อน ๆ ที่ทำงานร่วมกันทยอยได้รับการโปรโมท แต่เรายังอยู่ที่เดิม ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ กดดัน ท้อแท้ ทำให้ต้องเผชิญกับความเครียดอย่างเลี่ยงไม่ได้

ทำไมปัญหาวิกฤตวัยกลางคนส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย

ข้อดีของวิกฤตวัยกลางคน คือ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างแรงฮึด เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น แต่ปัญหาคือ บางคนไม่สามารถก้าวผ่านวิกฤตวัยกลางคนนี้ได้ ส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับ, ไม่มีสมาธิ, คิดลบกับตัวเองและรอบข้าง กระทบต่อสุขภาพ ทำให้เจ็บป่วย

ประกันชีวิตสำคัญต่อช่วงวัยกลางคนอย่างไร

วิกฤตวัยกลางคน เป็นช่วงวัยที่บุคคลเริ่มตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจของตนเอง รู้สึกถึงการสูญเสียความเยาว์วัยและเริ่มมองหาความหมายของชีวิตใหม่ ส่งผลให้อาจเกิดความรู้สึกเครียด วิตกกังวล เบื่อหน่ายในชีวิต เปลี่ยนแปลงตัวเองในด้านต่างๆ เช่น การแต่งกาย การทำงาน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เป็นต้น ซึ่งการซื้อประกันชีวิตสามารถเข้ามามีบทบาทในช่วงวิกฤตวัยกลางคนได้หลายประการ ดังนี้

• ช่วยในการวางแผนทางการเงิน ในช่วงวิกฤตวัยกลางคน บุคคลอาจมีภาระทางการเงินเพิ่มขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร ค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านหรือรถ เป็นต้น การทำประกันชีวิตสามารถช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของบุคคลและครอบครัวได้ในกรณีที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ
• สร้างความมั่นใจให้แก่ตนเอง การทำประกันชีวิตสามารถช่วยให้บุคคลรู้สึกอุ่นใจและมั่นใจมากขึ้นว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ครอบครัวหรือคนที่รักจะมีเงินทุนเพียงพอในการดำรงชีวิต ต่อไปได้
• เป็นเครื่องมือในการปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อชีวิต การทำประกันชีวิตสามารถช่วยให้ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตและมองหาความหมายของชีวิตใหม่ได้ ตัวอย่างเช่น บุคคลอาจตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ามากขึ้น ใช้เวลากับครอบครัวและคนที่รักมากขึ้น หรือทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำประกันชีวิตในช่วงวิกฤตวัยกลางคน ควรพิจารณาให้รอบคอบ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตรงกับความต้องการและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันของตนเอง นอกจากนี้ ควรศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำประกัน

สรุปบทความ

นิยามความหมายชีวิตที่สมบูรณ์แบบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลู่วิ่งใครลู่วิ่งมัน พยายามอย่าไปเปรียบเทียบกับคนรอบข้างมากนัก เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับวิกฤตวัยกลางคน SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต ขอชวนทุกคนมาเปลี่ยนความคิดลบให้กลายเป็นความคิดบวก ค่อย ๆ ค้นหาชีวิตที่ใช่ ก้าวข้ามทุกช่วงวัย ทุกปัญหาสุขภาพไปด้วยกัน