สัญญาเพิ่มเติมคืออะไร ทำอย่างไรให้คุ้มที่สุด | SE Life อาคเนย์
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  ทำความเข้าใจสัญญาเพิ่มเติมคืออะไร จำเป็นต้องทำหรือไม่

ทำความเข้าใจสัญญาเพิ่มเติมคืออะไร จำเป็นต้องทำหรือไม่

6 ก.ย. 2566

แชร์:

Facebook Icon Twitter Icon Line Icon

แต่ละคนมีความต้องการและความกังวลที่แตกต่างกันออกไป เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันนั้น บริษัทประกันหลายแห่งจึงเสนอตัวเลือกในการทำสัญญาเพิ่มเติม ให้คุณออกแบบความคุ้มครองนอกเหนือจากความคุ้มครองที่ได้จากสัญญาประกันภัยหลัก เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการหรือเป้าหมายในการทำประกันมากที่สุด คุ้มกับค่าเบี้ยที่จะต้องจ่ายจริง ๆ บทความนี้ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต จะพาไปทำความเข้าใจว่าสัญญาเพิ่มเติมคืออะไร

 

สัญญาเพิ่มเติมคืออะไร?

สัญญาเพิ่มเติม คือ สัญญาประกันภัยที่มีความคุ้มครองเพิ่มเติมจากสัญญาประกันภัยหลัก เพื่อเป็นการขยายความคุ้มครองตามความต้องการในการใช้ชีวิต หรือเพื่อให้ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน อย่างเช่น เมื่อคุณทำประกันชีวิตเป็นสัญญาหลัก แต่ความคุ้มครองไม่ครอบคลุมไปถึงเรื่องสุขภาพด้วย จึงได้ทำสัญญาเพิ่มเติมเพื่อขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุม ซึ่งคุณจะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นสำหรับสัญญาเพิ่มเติมนั้นด้วย สิ่งที่แตกต่างออกไปสำหรับสัญญาเพิ่มเติมของประกันชีวิตคือ เมื่อสิ้นสุดสัญญาประกันภัย จะไม่มีการคืนเบี้ยประกันส่วนนี้ให้กับคุณ โดยบริษัทประกันจะระบุเบี้ยประกันชีวิตและเบี้ยประกันของสัญญาเพิ่มเติมแยกออกจากกันอย่างชัดเจน โดยทั่วไปสัญญาเพิ่มเติมจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบที่ค่าเบี้ยประกันเพิ่มสูงขึ้นตามความเสี่ยงในแต่ละช่วงเวลา และแบบที่ค่าเบี้ยประกันคงที่ตลอดอายุสัญญา

 

สัญญาเพิ่มเติมที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?

ไม่ว่าคุณจะทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพเป็นสัญญาประกันภัยหลัก ก็สามารถทำสัญญาเพิ่มเติมอีกได้ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด โดยสัญญาเพิ่มเติมจะไม่ได้มีรูปแบบหรือประเภทที่เฉพาะเจาะจง ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน ซึ่งสัญญาเพิ่มเติมที่พบส่วนใหญ่ มีดังนี้

 
  1. สัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ

    ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) คือ ประกันสุขภาพที่จะให้ความคุ้มครองกรณีที่คุณต้องนอนโรงพยาบาลตามแพทย์สั่งติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง โดยจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาทั่วไป เช่น ค่าปรึกษาแพทย์ ค่าห้องพัก ค่าอาหาร ค่ารถพยาบาล ค่าบริการทั่วไป ค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลหรือผ่าตัดฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเกิดอุบัติเหตุ

    ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) คือ คือ ประกันสุขภาพที่จะให้ความคุ้มครองกรณีที่คุณเข้ารักษาตัวโดยไม่มีการนอนโรงพยาบาล โดยจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาทั่วไป เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าปรึกษาพบแพทย์ รวมไปถึงค่ายา และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ จึงเป็นประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

  2.  
  3. สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง (Critical Illness Rider : CI)

    ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง คือ ประกันสุขภาพที่จะให้ความคุ้มครองกรณีที่ตรวจพบว่าคุณเป็นกลุ่มโรคร้ายแรง โดยจะมีระยะเวลารอคอย 90 วันนับจากวันที่สัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรงได้รับการอนุมัติ บริษัทประกันจึงจะเริ่มคุ้มครอง ซึ่งส่วนใหญ่จะคุ้มครองโรคร้ายแรง 28 โรค เช่น โรคมะเร็ง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น

  4.  
  5. สัญญาเพิ่มเติมชดเชยรายได้ (Hospital Income protection หรือ HIP)

    สัญญาเพิ่มเติมชดเชยรายได้ จะให้ความคุ้มครองรายได้ของคุณกรณีที่ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในฐานะผู้ป่วยในเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ไม่สามารถออกไปทำงานหารายได้ได้ตามปกติ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเป็นเงินชดเชยให้คุณเป็นรายวัน จำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับแผนประกันที่คุณเลือก

 

แนะนำประกันสุขภาพ My Health My Choice

ประกันสุขภาพมิติใหม่ สุขภาพเลือกได้ ชีวิตก็ง่ายขึ้น ให้คุณอออกแบบประกันด้วยตัวคุณเอง เพียงทำประกันชีวิต "ไลฟ์ โปรเทคชัน คุ้มครอง 1 ปี" เป็นสัญญาประกันภัยหลัก ที่มีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี และระยะเวลาชำระค่าเบี้ยประกัน 1 ปี ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี และยังให้คุณได้เลือกแผนความคุ้มครองอีก 1 แผนเป็นสัญญาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น

 
  • แผนความคุ้มครองผู้ป่วยใน IPD (เบิกค่าห้อง ค่าอาหารได้) 

  • แผนความคุ้มครองผู้ป่วยนอก OPD (สูงสุด 30 ครั้ง/ปี ทุกแผน)

  • แผนเลือกรับค่าชดเชยรายได้ (สูงสุด 700 วัน/ปี ทุกแผน)

  • แผนคุ้มครองโรคร้ายแรง 28 โรค

 

ค่าเบี้ยประกันสัญญาเพิ่มเติมลดหย่อนภาษีได้หรือไม่?

ค่าเบี้ยประกันสัญญาเพิ่มเติมลดหย่อนภาษีไม่ได้ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 172) “กรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติม ค่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายสำหรับความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติมดังกล่าว ไม่สามารถยกเว้นภาษีสำหรับเบี้ยประกันภัยดังกล่าวได้”

 

กรณีที่คุณทำประกันชีวิต บริษัทประกันจะระบุจำนวนเบี้ยประกันชีวิต และเบี้ยประกันที่จ่ายสำหรับความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติมแยกออกจากกันอย่างชัดเจน คุณจะสามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตของสัญญาประกันหลักไปลดหย่อนภาษีได้เท่านั้น โดยจะลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท

 

สรุป สัญญาเพิ่มเติมกับการทำประกัน

สัญญาเพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการทำประกันมากยิ่งขึ้น ให้คุณได้ปรับความคุ้มครองให้เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น เพิ่มความสบายใจ ลดความเสี่ยงทางการเงินให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันชีวิต เสมอ เพื่อทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นจากสัญญาเพิ่มเติมเหล่านั้น

 

SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต มีประกันหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกตามเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน ทั้ง ประกันชีวิต , ประกันสุขภาพ และ ประกันออมทรัพย์ สามารถขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ตัวแทน หรือสนใจ ซื้อประกันออนไลน์ สามารถติดตามข่าวสาร SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต ได้ที่ Facebook SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต, LINE Official @THAIGROUP และ Call Center โทร 0 2255 5656