14 พฤศจิกายน (วันเบาหวานโลก) ภัยร้ายจากน้ำตาลที่ต้องตระหนัก
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  เบาหวานโลก ภัยร้ายใกล้ตัวที่ต้องระวัง

เบาหวานโลก ภัยร้ายใกล้ตัวที่ต้องระวัง

14 พ.ย. 2566

หนึ่งในโรคที่คร่าชีวิตคนไทยไม่แพ้โรคมะเร็ง คือ โรคเบาหวานที่นับวันยิ่งมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น อาจพูดได้ว่าไม่ใช่เพิ่มขึ้นแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่มีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นทั่วโลกจนต้องมีการจัดตั้งวันเบาหวานโลกขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนตระหนัก และเชิญชวนให้ประชาชนทั่วโลกร่วมกันตรวจสุขภาพ เพื่อเช็กโรคเบาหวานประจำปี เพื่อตรวจเช็กร่างกายของตนเองอย่างสม่ำเสมอ

 

วันเบาหวานโลก "World Diabetes Day" สำคัญอย่างไร

 

 

วันเบาหวานโลก "World Diabetes Day" ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1991 โดย สมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ (IDF) และองค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นงานที่จัดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความตระหนักในสังคม ให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน รวมถึงรณรงค์ให้ผู้ป่วยเบาหวานทุกคนได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องและเท่าเทียม 

 

โรคเบาหวาน คืออะไร ?

โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) เป็นภาวะที่ร่างกายมีปัญหาในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นั่นคือการทำงานของฮอร์โมนอินสุลิน (Insulin) มีความผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือดไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้มีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ 

 

สาเหตุของโรคเบาหวาน เกิดจากอะไร ?

สาเหตุของโรคเบาหวานส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงมากขึ้นถึงระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานร่วมด้วย เช่น

  • พันธุกรรม หากมีญาติ พ่อแม่ พี่น้องเป็นเบาหวาน ความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานก็จะเพิ่มขึ้น
  • น้ำหนักเกินมาตรฐาน คนที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นเบาหวานได้ เพราะไขมันในร่างกายมีผลกระทบต่อการทำงานของอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสูง
  • การใช้ยาหรือสารเคมีบางชนิด  เช่น สเตียรอยด์ อาจมีผลต่อการเป็นเบาหวาน
 

โรคเบาหวาน มีกี่ชนิด ?

 

 

โรคเบาหวาน มีอยู่ 4 ชนิดคือ

  1. เบาหวานชนิดที่ 1

    เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากภูมิคุ้มกันร่างกายทำลายเซลล์สร้างอินซูลิน (Insulin) ในตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนไม่สามารถหลั่งอินซูลินได้ พบได้ทั้งในเด็กและผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี หากเป็นเบาหวานชนิดนี้ต้องได้รับการฉีดอินซูลิน (Insulin) เป็นประจำ

  2. เบาหวานชนิดที่ 2

    เบาหวานชนิดที่ 2 เกิดจากการลดลงของการสร้างอินซูลิน ร่วมกับภาวะดื้ออินซูลิน เกิดจากกรรมพันธุ์ รวมถึงเกิดจากการทานอาหารประเภทแป้ง ของหวานมากเกินไป ไม่ได้ออกกำลังกาย มีภาวะอ้วนลงพุงร่วมด้วย ส่งผลให้ร่างกายขาดอินซูลินจนตับอ่อนทำงานมากขึ้นและไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างเหมาะสม หากเป็นเบาหวานชนิดนี้จะได้รับยาเบาหวานชนิดกิน เพื่อควบคุมอาการ

  3. เบาหวานขณะตั้งครรภ์

    เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational diabetes mellitus, GDM) เป็นโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ มักเกิดเมื่อไตรมาส 2-3 ของการตั้งครรภ์พบในคนที่ไม่เคยมีประวัติเป็นเบาหวานมาก่อน เมื่อคลอดแล้วเบาหวานก็จะหายไป แต่จะมีความเสี่ยงที่เกิดเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกในอนาคต

  4. เบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ

    เบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ (specific types of diabetes due to other causes) เกิดได้จากหลายสาเหตุ ท้้งจากโรคที่เกี่ยวกับการทำงานที่ผิดปกติของอินซูลินโดยกำเนิด โรคของตับอ่อน โรคทางต่อมไร้ท่อ รวมถึงการใช้ยาบางชนิด หรือการติดเชื้อบางอย่าง เป็นต้น

 

อาหารน้ำตาลสูงอะไรบ้างที่ควรเลี่ยง

การลดบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงเป็นหนึ่งในวิธีรักษาและป้องกันเบาหวานได้ ซึ่งสามารถเลี่ยงทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น 

  • น้ำอัดลม กาแฟสำเร็จรูป น้ำผลไม้หรือผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ขนมหวาน เค้ก เบเกอรี โดนัท ไอศกรีม
  • ซอส ผงปรุงรสต่าง ๆ เช่น ซอสมะเขือเทศ มายองเนส 
  • ผลไม้เชื่อม ผลไม้กวน ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม ตากแห้ง อบน้ำผึ้ง รวมทั้งผลไม้กระป๋อง
 

สรุปบทความ

เบาหวาน เมื่อเป็นแล้วจะก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมามากมาย แต่เราก็สามารถควบคุมและป้องกันได้ด้วยการลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง เลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี รวมถึงสังเกตสัญญาณเตือนต่าง ๆ ของร่างกายอยู่เสมอว่ามีอาการผิดปกติอะไรบ้าง

 

 

 และอย่าลืมเสริมความมั่นใจด้วยการเลือกซื้อประกันสุขภาพกับ SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต เพราะนอกจากจะช่วยคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังช่วยเซฟค่าใช้จ่ายเวลาต้องเข้ารักษาพยาบาลอีกด้วย หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้เลย