ได้โบนัสทำอะไรดี? เปลี่ยนเงินโบนัสที่ออก ให้เป็นรายรับเข้าทุกปีด้วย... | SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  ได้โบนัสแล้วเอาไปทำอะไรดี? เปลี่ยนเงินโบนัสที่ออก…ให้เป็นรายรับเข้าทุกปีด้วยประกันสะสมทรัพย์

ได้โบนัสแล้วเอาไปทำอะไรดี? เปลี่ยนเงินโบนัสที่ออก…ให้เป็นรายรับเข้าทุกปีด้วยประกันสะสมทรัพย์

25 มี.ค. 2568

เมื่อถึงช่วงที่ โบนัสออก หลายๆ คนอาจจะคิดถึงการใช้เงินโบนัสในรูปแบบต่างๆ เช่น การช็อปปิ้งหรือใช้จ่ายเพื่อความสุขส่วนตัว แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณสามารถ ลงทุน จากเงินโบนัสที่ได้ให้กลายเป็น รายรับ ที่มั่นคง สม่ำเสมอ และเติบโตในอนาคตได้ ประกันสะสมทรัพย์ เป็นทางเลือกที่ดีในการใช้โบนัส เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนและเพิ่ม รายได้ ในระยะยาว

 

โบนัสสำคัญอย่างไร กับมนุษย์เงินเดือน

โบนัส ถือเป็นเงินก้อนใหญ่ที่มนุษย์เงินเดือนรอคอยทุกปี ซึ่งอาจมีมูลค่ามากถึงหลายเดือนของเงินเดือนปกติ การใช้โบนัสให้เกิดประโยชน์สูงสุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่คุณต้องการวางแผน การเงินระยะยาว หากนำโบนัสไป ลงทุน อย่างถูกวิธี สามารถช่วยให้คุณมี รายได้ ที่เพิ่มขึ้นและสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต

 

ทำไมควรวางแผนการใช้เงินโบนัสที่ได้ ?

เงินโบนัสที่ได้รับมักเป็นเงินพิเศษที่หลายคนรอคอย แต่การใช้จ่ายเงินโบนัสอย่างระมัดระวังจะช่วยให้คุณมีการวางแผนการเงินที่ดีขึ้นในระยะยาว ถึงแม้การใช้เงินโบนัสไปกับสิ่งของที่ต้องการจะทำให้คุณมีความสุขชั่วคราว แต่หากไม่ระมัดระวังอาจส่งผลให้คุณไม่ได้รับประโยชน์จากโบนัสอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะถ้านำไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่ได้เพิ่มมูลค่า หรือสร้างผลตอบแทนกลับมา เช่น ช็อปปิ้งของฟุ่มเฟือย การใช้จ่ายดังกล่าวอาจทำให้คุณสูญเสียโอกาสในการ ลงทุน ที่สามารถให้ผลตอบแทนในระยะยาวได้

 

หากเราคิดถึงการใช้เงินโบนัสในทางที่สร้างประโยชน์ เช่น การลงทุนในประกันสะสมทรัพย์หรือการสร้างเงินสำรองเพื่ออนาคต จะช่วยให้เราได้ผลลัพธ์ที่มีความมั่นคง และยั่งยืน การนำโบนัสไป ลงทุน ใน ประกันสะสมทรัพย์ เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพราะจะช่วยให้โบนัสที่ได้รับเพิ่มมูลค่าขึ้นและสามารถสร้าง รายได้ ในอนาคตได้

 

ข้อดี-ข้อเสียของการนำเงินโบนัสลงทุนในประกันสะสมทรัพย์

 

ข้อดี:

  • ผลตอบแทนที่มั่นคง: เมื่อคุณลงทุนในประกันสะสมทรัพย์ เงินของคุณจะเติบโตไปพร้อมกับดอกเบี้ย หรือผลตอบแทนจากบริษัทประกัน ซึ่งอาจสูงกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป ประกันสะสมทรัพย์ เช่น D-Saving 310 และ D-Super Saving 10/1 (1.8%) ช่วยให้คุณสามารถ สะสมเงิน ในระยะยาวและได้รับผลตอบแทนคืนทุกปี
  • ความปลอดภัย: ประกันประเภทนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น หรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยให้ผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้
  • ลดหย่อนภาษี: การลงทุนใน ประกันสะสมทรัพย์ สามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาทต่อปี ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
 

ข้อเสีย:

  • ผลตอบแทนที่ไม่สูงทันที: ผลตอบแทนจากการลงทุนในประกันสะสมทรัพย์อาจไม่เห็นผลทันทีเหมือนกับการลงทุนในประเภทอื่นๆ เนื่องจากประกันสะสมทรัพย์จะค่อยๆ สะสมผลตอบแทนตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อเห็นผลที่ชัดเจน และได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
  • ข้อจำกัดในการถอนเงิน: การถอนเงินจากประกันสะสมทรัพย์อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด บางครั้งอาจไม่สามารถถอนเงินได้ทันทีในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน นอกจากนี้การถอนก่อนกำหนด ยังอาจทำให้คุณไม่ได้รับผลประโยชน์เต็มที่ตามที่คาดหวัง หรืออาจมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินอีกด้วย
 

เปรียบเทียบประกันสะสมทรัพย์ที่น่าลงทุน

เมื่อ โบนัสออก และคุณกำลังมองหาตัวเลือกในการลงทุน ประกันสะสมทรัพย์ ที่มีผลตอบแทนดีและเหมาะสมกับความต้องการของคุณ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักและเปรียบเทียบ 2 แบบ ประกันสะสมทรัพย์ ยอดนิยม คือ D-Saving 310 และ D-Super Saving 10/1 (1.8%) ว่าตัวไหนเหมาะสมกับการใช้ โบนัสในการลงทุน มากที่สุด

 

1. แบบประกันสะสมทรัพย์ D-Saving 310

D-Saving 310 เป็น ประกันสะสมทรัพย์ ระยะยาวที่ออกแบบมาให้มีระยะเวลาการจ่ายเบี้ยฯ เพียง 3 ปี และความคุ้มครองจะต่อเนื่องไปอีก 10 ปี มีจุดเด่นดังนี้:

 

ข้อดี:

  • ให้ผลตอบแทนสูง: เนื่องจากมีภาระผูกพันที่ต้องจ่ายเบี้ยฯ ต่อเนื่องในช่วง 3 ปีแรก ทำให้ได้รับผลประโยชน์ต่างๆ มากกว่าแบบประกันที่ชำระเบี้ยฯ ครั้งเดียว
  • ความคุ้มครองยาวนาน 10 ปี: รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 345%
  • เงินคืน: หลังจากการจ่ายเบี้ยประกันในปีแรก คุณจะได้รับเงินคืนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ 2%, 4%, และ 6% ในแต่ละปีตามลำดับ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเงินต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ที่อยากฝึกวินัยทางการออมให้กับตัวเอง และยังไม่ต้องการความกดดันจากการจ่ายเบี้ยฯ ที่นานเกินไป
 

2. แบบประกันออมทรัพย์ D-Super Saving 10/1 (1.8%)

D-Super Saving 10/1 (1.8%) เป็น ประกันสะสมทรัพย์ ที่มีระยะเวลาการจ่ายเบี้ยฯ สั้นกว่า โดยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันเพียงปีแรกเท่านั้น และยังได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องไปอีก 10 ปี มีจุดเด่นดังนี้:

 

ข้อดี:

  • เบี้ยประกันจ่ายครั้งเดียว: จ่ายเบี้ยฯ เพียงปีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการจ่ายเบี้ยอีก
  • ความคุ้มครองยาวนาน 10 ปี: รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 118%
  • เงินคืน: หลังจากการจ่ายเบี้ยประกันในปีแรก คุณจะได้รับเงินคืนตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ 1.8%
  • ผลตอบแทนสูงในระยะสั้น: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ ผลตอบแทน รวดเร็ว โดยไม่ต้องผูกมัดการจ่ายเงินในระยะยาว
  • ความยืดหยุ่นสูง: หลังจากจ่ายเบี้ยประกันแล้ว คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจ่ายเบี้ยฯ อีกต่อไป
 

เปรียบเทียบระหว่าง D-Saving 310 และ D-Super Saving 10/1 (1.8%)

 

ตารางเปรียบเทียบแบบประกันสะสมทรัพย์ 310 กับ 10/1

 

สรุป

การเปลี่ยนโบนัสที่ออกให้กลายเป็นรายรับที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ด้วย ประกันสะสมทรัพย์ เป็นวิธีที่น่าสนใจในการสร้างความมั่นคงทางการเงินระยะยาว แทนที่จะใช้โบนัสไปกับการใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น คุณสามารถนำเงินส่วนนี้มาลงทุนเพื่อให้มันเติบโต และพร้อมช่วยเสริมความคุ้มครองในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างวินัยในการออม และการวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

การเลือก ประกันสะสมทรัพย์ ที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน หากคุณต้องการการสะสมทรัพย์โดยไม่กังวลกับการจ่ายเบี้ย 3 ปี D-Saving 310 อาจเป็นทางเลือกที่ดี แต่หากคุณต้องการการจ่ายเบี้ยฯ ระยะสั้นและผลตอบแทนที่รวดเร็ว D-Super Saving 10/1 (1.8%) เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง และไม่ต้องการผูกมัดในระยะยาว

 

สุดท้าย การเลือก ประกันสะสมทรัพย์ จะขึ้นอยู่กับความต้องการทางการเงินของคุณในระยะยาว ควรพิจารณาทั้งประโยชน์ และภาระทางการเงินที่สามารถรับได้ในระยะยาวเพื่อการตัดสินใจที่ดีที่สุด.

ประกันที่เกี่ยวข้อง