เตรียมรับมือ 6 โรคที่มากับหน้าหนาว
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  เตรียมรับมือให้พร้อม 6 โรคที่มากับหน้าหนาวมีอะไรบ้าง

เตรียมรับมือให้พร้อม 6 โรคที่มากับหน้าหนาวมีอะไรบ้าง

1 พ.ย. 2566

แชร์:

Facebook Icon Twitter Icon Line Icon

ใกล้หน้าหนาวเข้ามาอีกแล้ว ถึงอากาศจะเย็นสบายถูกใจใครหลาย ๆ คน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอากาศหนาว ๆ แบบนี้มาพร้อมกับเชื้อโรค และไวรัสที่อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ วันนี้เราจึงรวมเอา 6 โรคที่มากับหน้าหนาว อาการของโรคเป็นอย่างไร วิธีการรักษาไปในทิศทางไหน แล้วการป้องกันรักษาล่ะ เป็นอย่างไร มาหาคำตอบได้ที่บทความนี้

 

6 โรคที่มากับหน้าหนาว

 

6 โรคยอดฮิตที่เราเอามาฝากกันในวันนี้ เป็นโรคที่พบบ่อยในหน้าหนาวมาก ๆ ไม่ว่าฤดูหนาวจะผ่านมากี่ครั้ง โรคเหล่านี้ก็จะเวียนมาทักทายทุกครั้งไป 6 โรคที่พูดถึงนี้ คือ

 
  1. โรคไข้หวัด

    แน่นอนว่าเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงจากร้อนมาเย็นขึ้น ร่างกายไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันเวลา โรคไข้หวัดระบาดหนักในช่วงฤดูหนาวถึง 2 เท่า อาการของโรคนี้ไม่รุนแรงหนัก แต่จะมีอาการที่ทำให้ไม่สบายตัว หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น คัดจมูก หายใจไม่ออก ปวดศีรษะ ไอ จาม มีไข้สูงจนอ่อนเพลีย และยังมีอาการปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วย การรักษาคือใช้ยารักษาตามอาการ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรักษาร่างกายให้มีภูมิต้านทาน เสริมวิตามินซีวิตามินสำคัญที่ใช้ในการซ่อมแซมร่างกายในเพียงพอ รับประทานผักผลไม้เป็นประจำก็ช่วยป้องกันโรคนี้ได้

  2. โรคไข้หวัดใหญ่

     

    โรคที่มากับหน้าหนาวอย่างโรคไข้หวัดใหญ่จะมีความรุนแรงกว่าโรคไข้หวัดธรรมดา ที่ระบาดหนักในช่วงหน้าหนาวนี้เกิดจาก เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือ Inuenza Virus ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด คือ ชนิดเอพบในคน และสัตว์แพร่กระจายได้ง่าย, ชนิดบีพบในคน อาการไม่ค่อยรุนแรง และชนิดซีพบน้อยและไม่มีความรุนแรง อาการเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา แต่อาจจะมีระดับในความรุนแรงมากกว่า 
    โรคไข้หวัดใหญ่เป็นอันตรายกับกลุ่มที่มีภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงเช่น เด็กเล็ก ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ หรือกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวอย่างหอบหืด เบาหวาน อาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้คืออาการปอดติดเชื้อ โรคนี้จะหายเองได้ใน 1-2 สัปดาห์ กินยาตามอาการพักผ่อนให้เยอะ ดื่มน้ำมาก ๆ งดทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะ

  3. ปวดบวม

    อาการปอดบวมเป็นโรคที่มากับหน้าหนาวที่ผู้ปกครองของเด็ก ๆ 5-10 ปี กังวลใจมาก เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส ทำให้มีหนองและสารน้ำในถุงลม จนเนื้อในบริเวณปอดไม่สามารถรับออกซิเจนได้อย่างปกติ อาการคือ ไอหนัก คัดจมูก จาม มีเสมหะมาก ไข้สูงติดกัน 2 วัน หนาวสั่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หากรักษาไม่ทันเวลาอาจทำให้เสียชีวิตได้
    วิธีการรักษาต้องรีบพบแพทย์ทันที ให้แพทย์วินิจฉัยว่าจะใช้ยาปฏิชีวนะ ยาละลายเสมหะ หรือต้องขยายหลอดลม ในเด็กเล็กอาจจะต้องมีการดูดเสมหะ การเคาะปอดร่วมด้วย การป้องกันคือ หลีกเลี่ยงอยู่ในบริเวณที่มีผู้คนแน่นจัด สำหรับเด็กและผู้สูงอายุควรมีการฉีดวัคซีนป้องกัน

  4. โรคหัด

    เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อรูบีโอลาไวรัส พบมากในเด็กอายุ 2-12 ปี ติดต่อกันด้วยอาการไอ จาม หรือหายใจรดกันโดยตรง อาการคล้ายไข้หวัดแต่จะมีผื่นแดงตามร่างกาย มีตุ่มใส ๆ ขึ้นในปาก กระพุ้งแก้ม และฟันกรามบน การรักษาขึ้นอยู่กับอาการ แต่ยังไม่มียารักษาโดยตรง การดูแลป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนป้องกัน

  5. โรคหอบหืดและโรคปอดเรื้อรัง

    โรคนี้เป็นอาการข้างเคียงจากโรคไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดร่วมด้วย ระบาดหนักในช่วงหน้าหนาว อาการคล้ายกับไข้หวัด แต่จะมีระยะยาวนานกว่า หากมีอาการไข้หวัดติดต่อกันนานกว่า 2-3 วัน ต้องรีบเดินทางไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยอาการให้ละเอียดขึ้น สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน และดูแลตัวเองให้ไม่เจ็บป่วยจากไข้หวัดหน้าหนาว

  6. โรคภูมิแพ้

    โรคที่มากับหน้าหนาวโรคนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้มากในกลุ่มคนที่แพ้ฝุ่น แพ้ควันบุหรี่ ขนสัตว์ หรือแพ้อากาศ ทำให้มีอาการคัดจมูก คันตา จาม น้ำมูกไหล บางคนมีผื่นคันตามตัว ให้หลีกเลี่ยงอากาศหนาวจัด สวนเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น และพกยารักษาอาการภูมิแพ้ติดตัวไว้ เพื่อรับประทานเมื่ออาการกำเริบ

 

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลโรคที่มากับหน้าหนาว

ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ยาเสพติด อยู่ให้ห่างไกลจากคนที่ป่วยเป็นโรคเหล่านี้ ไม่ใช้ของร่วมกับคนอื่น ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันแบคทีเรียสะสมในร่างกาย หน้าหนาวต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น หากมีอาการไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ต้องรีบรักษาก่อนลุกลามเป็นโรคอื่น ๆ ได้

 

สรุปบทความ

การป้องกันโรคที่มากับหน้าหนาวที่ดีที่สุดคือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย ดื่มน้ำมาก ๆ และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย เมื่อมีอาการแล้วต้องรีบรักษา หรือรีบพบแพทย์ให้ทันเวลา หากกังวลเรื่องการรักษามองหาประกันสุขภาพ หรือ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย สักตัวเพื่อเป็นหลักประกันรองรับในนามที่เจ็บป่วย