วิธีเลิกบุหรี่ 6 ขั้นตอนง่าย ๆ พร้อมเคล็ดลับล้างนิโคติน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  วิธีเลิกบุหรี่ที่คุณทำได้ไม่ยาก ห่างไกลโรคร้ายเพื่อคนรอบข้าง และสุขภาพที่ดีขึ้น

วิธีเลิกบุหรี่ที่คุณทำได้ไม่ยาก ห่างไกลโรคร้ายเพื่อคนรอบข้าง และสุขภาพที่ดีขึ้น

23 มิ.ย. 2568

แชร์:

Facebook Icon Twitter Icon Line Icon

การตัดสินใจเลิกบุหรี่ คือก้าวสำคัญที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณให้ดีขึ้นได้อย่างมหาศาล ไม่ใช่แค่เพื่อตัวคุณเอง แต่เพื่อคนที่คุณรักด้วยเช่นกัน เพราะการสูบบุหรี่คือประตูบานใหญ่ที่เปิดรับสารพัด โรคร้าย เข้าสู่ร่างกาย ตั้งแต่ มะเร็ง หัวใจ ไปจนถึงโรคปอดเรื้อรัง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของการเลิกบุหรี่ พร้อมแนะนำ วิธีเลิกบุหรี่ และการล้างนิโคตินออกจากร่างกายที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถก้าวผ่านความท้าทายนี้ไปได้อย่างมั่นใจ และกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง

 

อาการเลิกบุหรี่ในช่วงแรกมีอะไรบ้าง

การเลิกบุหรี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งร่างกายและสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสมองที่เคยชินกับสารนิโคตินต้องเริ่มปรับตัวเมื่อไม่ได้รับสารกระตุ้นดังกล่าวอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายต่าง ๆ ซึ่งรู้จักกันในชื่อว่า “อาการถอนนิโคติน” (Nicotine Withdrawal Symptoms) อาการเหล่านี้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่มักเริ่มต้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากหยุดสูบบุหรี่มวนสุดท้าย โดยจะรุนแรงที่สุดในช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อยๆ ทุเลาลงภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ อาการถอนนิโคตินที่พบได้บ่อย ได้แก่

  • ความอยากบุหรี่อย่างรุนแรง : เป็นอาการท้าทายที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เคยสูบหรือเมื่อเผชิญสถานการณ์กระตุ้น
  • อารมณ์เปลี่ยนแปลง : รวมถึงหงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย วิตกกังวล และซึมเศร้าเล็กน้อย เกิดจากสมองปรับสมดุลสารเคมี
  • ผลกระทบต่อร่างกาย : สมาธิลดลง นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ ไอ คัดจมูก เจ็บคอ และอ่อนเพลีย
  • การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ : น้ำหนักเพิ่มจากการเผาผลาญช้าลงและความอยากอาหารเพิ่ม รวมถึงท้องผูกจากการปรับตัวของระบบขับถ่าย

อาการเหล่านี้เป็นเพียงชั่วคราว และเป็นสัญญาณดีที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากการติดนิโคติน การเตรียมตัวล่วงหน้า และขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้เลิกบุหรี่สำเร็จได้ง่ายขึ้น

 

เคล็ดลับการล้างนิโคตินออกจากร่างกาย

การ "ล้างนิโคตินออกจากร่างกาย" หมายถึงการ เร่งกระบวนการขับสารพิษตามธรรมชาติ และ ฟื้นฟูร่างกาย ให้กลับคืนสู่สุขภาพที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการพิเศษใด ๆ เพราะร่างกายมีกลไกขับสารพิษอยู่แล้ว

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ : ดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน ช่วยให้ไตทำงานได้ดีในการกรองและขับนิโคตินออกทางปัสสาวะ พร้อมแก้ปัญหาภาวะขาดน้ำที่พบในผู้สูบบุหรี่
  2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : ออกกำลังกายช่วยเพิ่มการเผาผลาญ ขับสารพิษทางเหงื่อ และลดความเครียดพร้อมเบี่ยงเบนความสนใจจากความอยากบุหรี่
  3. เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม :
    • ผลไม้รสเปรี้ยว (ส้ม มะนาว ฝรั่ง) เสริมวิตามินซีที่สูญเสียจากการสูบบุหรี่
    • ผักใบเขียว ให้คลอโรฟิลล์และสารต้านอนุมูลอิสระ
    • ปลาที่มีโอเมก้า 3 ช่วยลดการอักเสบ
    • หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ที่กระตุ้นความอยากบุหรี่
  4. พักผ่อนอย่างเพียงพอ : การนอนหลับที่มีคุณภาพช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายจากสารพิษ และลดความเครียดที่อาจกระตุ้นความอยากบุหรี่
  5. สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลิกบุหรี่ : หลีกเลี่ยงสถานที่และสถานการณ์ที่เคยสูบบุหรี่ พร้อมแจ้งคนรอบข้างเพื่อขอความร่วมมือ
  6. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ : ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อได้รับแผนการดูแลที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล นิโคตินจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 24-72 ชั่วโมง หลังสูบมวนสุดท้าย
 

ทำไมต้องเลิกบุหรี่? ประโยชน์ที่คุณได้รับทันทีที่ตัดสินใจ

why

หลายคนรู้ว่าบุหรี่อันตราย แต่ไม่แน่ใจว่าการเลิกบุหรี่จะส่งผลดีแค่ไหน ลองมาดูกันว่าร่างกายของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง เมื่อคุณเลิกบุหรี่ ได้สำเร็จ

  • 20 นาที: อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตจะกลับสู่ระดับปกติ
  • 12 ชั่วโมง: ระดับคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดลดลง ทำให้ปริมาณออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น
  • 2-12 สัปดาห์: ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น การทำงานของปอดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • 1-9 เดือน: อาการไอและหายใจลำบากลดลง คุณจะรู้สึกมีเรี่ยวแรงและกระปรี้กระเปร่าขึ้น
  • 1 ปี: ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังสูบบุหรี่
  • 5 ปี: ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองและมะเร็งช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะปัสสาวะ และคอหอย ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
  • 10 ปี: ความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดลดลงครึ่งหนึ่ง และความเสี่ยงเป็นมะเร็งตับอ่อนและมะเร็งกล่องเสียงลดลง
 

ก้าวแรกของการเลิกบุหรี่ เริ่มต้นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและให้รางวัลตัวเอง

ก่อนเริ่มต้น ให้กำหนดวันที่จะงดบุหรี่ที่แน่นอน และบอกคนใกล้ชิดให้ทราบถึงความตั้งใจของคุณ เพื่อให้พวกเขาเป็นกำลังใจ หากคุณทำได้ตามเป้าหมาย ลองให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง

 

2. หาแรงจูงใจที่แข็งแกร่ง

ลองเขียนเหตุผลที่คุณอยากเลิกบุหรี่ เช่น เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อลูก เพื่อครอบครัว หรือเพื่อประหยัดเงิน วางไว้ในที่ที่มองเห็นได้ชัด เพื่อเตือนตัวเองถึงเป้าหมายที่แท้จริง

 

3. เตรียมตัวรับมือกับอาการถอนนิโคติน

เมื่อร่างกายไม่ได้รับนิโคติน จะมีอาการ หงุดหงิด กระสับกระส่าย อยากอาหาร หรือปวดหัวได้ อาการเหล่านี้มักจะถึงจุดสูงสุดในช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-4 สัปดาห์ การรับมือกับอาการเหล่านี้คือหัวใจสำคัญ

  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ: ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
  • หาสิ่งทดแทน: เคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล อมลูกอม ดื่มน้ำผลไม้ หรือหาสิ่งของมาจับเล่น
  • หากิจกรรมอื่น ๆ ทำ: ออกกำลังกายเบา ๆ อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทำงานอดิเรก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
  • หายใจลึก ๆ: เมื่อรู้สึกอยากบุหรี่ ให้หายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ และผ่อนออกยาว ๆ ทำซ้ำ ๆ สัก 2-3 ครั้ง
 

4. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น

เลี่ยงสิ่งแวดล้อมหรือสถานการณ์ที่มักทำให้คุณอยากสูบบุหรี่ เช่น หลังอาหารเช้า ดื่มกาแฟ หรือเวลาสังสรรค์กับเพื่อน แล้วพยายามหลีกเลี่ยงหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น เช่น เปลี่ยนมาดื่มชาแทนกาแฟ หรือเลี่ยงการสังสรรค์ในที่ที่สูบบุหรี่

 

5. ใช้ตัวช่วยทางการแพทย์

หากคุณรู้สึกว่าการเลิกด้วยตัวเองเป็นเรื่องยาก ลองปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับ ยาเลิกบุหรี่ หรือผลิตภัณฑ์ทดแทนนิโคติน (เช่น หมากฝรั่งนิโคติน แผ่นแปะนิโคติน) ซึ่งสามารถช่วยลดอาการถอนนิโคตินได้ และเพิ่มโอกาสในการเลิกบุหรี่ให้สำเร็จ

 

6. ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

ในประเทศไทยมี สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 ที่ให้บริการปรึกษาฟรีจากผู้เชี่ยวชาญ คุณสามารถโทรไปขอคำแนะนำ ปรึกษาปัญหาระหว่างการเลิกบุหรี่ หรือขอรับกำลังใจได้ตลอดเวลา

 

สรุปประโยชน์จากการเลิกสูบบุหรี่ ห่างไกลโรคร้าย เป็นของขวัญให้ตัวเอง และคนที่คุณรัก

เมื่อคุณงดสูบบุหรี่สุขภาพของคุณจะ ฟื้นฟูขึ้นทั้งหัวใจ ปอด และระบบหายใจ ยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงอย่าง มะเร็งและโรคหัวใจ ได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้การเลิกบุหรี่ยังช่วยปกป้องคนรอบข้างจากควันบุหรี่มือสอง เพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับครอบครัว และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกหลาน เริ่มวันนี้ เพื่อชีวิตใหม่ที่แข็งแรงและยั่งยืน