ติดจอหนักแค่ไหน? Social Detox ทางออกง่ายๆ ที่ช่วยคุณได้ | SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  ติดจอจนไม่มีเวลาให้ตัวเอง? แก้ปัญหานี้ด้วย Social Detox!

ติดจอจนไม่มีเวลาให้ตัวเอง? แก้ปัญหานี้ด้วย Social Detox!

19 มี.ค. 2568

ทุกวันนี้ หลายคนใช้เวลาไปกับหน้าจอมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต จนเกิดอาการ "ติดจอ" โดยไม่รู้ตัว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน การทำ Social Detox หรือการลดการใช้งานโซเชียลมีเดียและอุปกรณ์ดิจิทัล เป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน Social Detox มีประโยชน์อย่างไร และช่วยลดอาการติดจอได้มากแค่ไหน มาหาคำตอบกัน!

 

social-detox

 

ติดจอ คืออะไร และส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

การติดจอ หมายถึงพฤติกรรมที่ใช้เวลาหน้าจอเป็นเวลานานเกินไป จนส่งผลต่อการดำเนินชีวิต เช่น การเล่นโซเชียลมีเดียตลอดเวลา เช็กมือถือก่อนนอน หรือรู้สึกกระวนกระวายมือถือไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งหากไม่รีบแก้พฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบหลายด้าน เช่น

  • สุขภาพสายตา – จ้องหน้าจอนานเกินไป ทำให้ปวดตา ตาล้า หรือเสี่ยงภาวะสายตาสั้น
  • การนอนหลับ – แสงสีฟ้าจากหน้าจอรบกวนการผลิตเมลาโทนิน ทำให้นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท
  • สุขภาพจิต – การเสพข้อมูลจากโซเชียลมีเดียมากเกินไป อาจทำให้เกิดความเครียด วิตกกังวล หรือซึมเศร้า
  • สมาธิสั้นลง – การเล่น Social Media บ่อย ๆ ทำให้ความสามารถในการโฟกัสลดลง ส่งผลต่อการเรียนและการทำงาน
  • ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง – การให้ความสำคัญกับหน้าจอมากกว่าคนใกล้ตัว อาจทำให้ความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือเพื่อนลดลง
 

Social Detox คืออะไร

Social Detox คือ การลดหรืองดใช้สื่อโซเชียลและอุปกรณ์ดิจิทัลชั่วคราว เพื่อฟื้นฟูสุขภาพจิต ปรับสมดุลชีวิต และช่วยแก้ปัญหาพฤติกรรมติดจอ โดยอาจเริ่มจากการกำหนดเวลางดใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่วง ๆ หรือหยุดใช้บางแพลตฟอร์มที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์และสุขภาพ

 

10 วิธีทำ Social Detox เพื่อแก้อาการติดจอ

  1. กำหนดเวลาใช้งานหน้าจอ – ลองตั้งกฎให้ตัวเอง เช่น ใช้โซเชียลไม่เกินวันละ 1-2 ชั่วโมง
  2. ปิดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น – ลดสิ่งรบกวนจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าต้องเช็กโทรศัพท์ตลอดเวลา
  3. กำหนดช่วงเวลาปลอดจอ – ห้ามใช้มือถือในบางช่วง เช่น เวลากินข้าว หรือก่อนนอน 1 ชั่วโมง
  4. ลบแอปที่ไม่จำเป็น – ลบแอปที่ทำให้เสียเวลา เช่น โซเชียลมีเดียบางตัวที่ทำให้ติดจอโดยไม่จำเป็น
  5. หาอย่างอื่นทำแทน – อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมออฟไลน์ หรือใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนให้มากขึ้น
  6. ตั้งเป้าหมายชัดเจน – ใช้โซเชียลเพื่อทำงานและเรียน มากกว่าการเลื่อนดูฟีดไปเรื่อย ๆ
  7. ใช้เทคนิค 20-20-20 – ทุก 20 นาทีที่ใช้หน้าจอ ให้มองไปที่จุดไกล ๆ 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร) เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อช่วยลดอาการล้าของสายตา
  8. สร้างพื้นที่ปลอดหน้าจอในบ้าน – กำหนดโซนที่ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ เช่น ห้องนอน หรือโต๊ะอาหาร เพื่อช่วยให้เกิดสมดุลในการใช้ชีวิต
  9. ลองทำ Social Detox Challenge – กำหนดช่วงเวลา เช่น 24 ชั่วโมง หรือ 7 วัน เพื่อทดลองงดใช้โซเชียลและดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
  10. สังเกตตัวเอง – ลองถามตัวเองว่าใช้มือถือเพื่ออะไร จำเป็นหรือแค่ความเคยชิน? ลองฝึกให้มีสติและรู้ตัวอยู่เสมอ
 

Social Detox ช่วยแก้ปัญหาของคนติดจอ ได้อย่างไร?

การทำ Social Detox อย่างจริงจัง จะช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้น โฟกัสกับงานและการเรียนได้ดีขึ้น ลดความเครียดจากการเสพข้อมูลมากเกินไป และทำให้มีเวลาสำหรับตัวเองมากขึ้น และนี่คือข้อดีทั้งหมดของการทำ Social Detox ดังนี้

  • ลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า – การลดเวลาบนโซเชียลมีเดียช่วยให้เราไม่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น และลดปริมาณข้อมูลที่มากเกินไป
  • เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน – เมื่อลดเวลาหน้าจอ สมองจะมีเวลาพัก และสามารถโฟกัสกับงานสำคัญได้ดีขึ้น
  • ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ – งดใช้อุปกรณ์ดิจิทัลก่อนนอนช่วยให้ร่างกายผลิตเมลาโทนินได้ดีขึ้น ช่วยแก้อาการนอนหลับยาก
  • เสริมสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง – ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น
  • ทำให้สุขภาพกายและใจดีขึ้น – ลดความเสี่ยงจากปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการจ้องจอ เช่น ปวดตา ไมเกรน หรือออฟฟิศซินโดรม
 

สรุป อาการติดจอสามารถแก้ได้ไม่ยากด้วย Social Detox

หากคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มติดจอ การทำ Social Detox เป็นทางเลือกที่ดีในการแก้ปัญหานี้อย่างมีประสิทธิภาพ การลดการใช้โซเชียลมีเดียและอุปกรณ์ดิจิทัล ไม่เพียงช่วยให้เรากลับมาควบคุมเวลาของตัวเองได้ แต่ยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพกายและใจอีกด้วย ลองเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วคุณจะพบว่าชีวิตแบบ "ออฟไลน์" ก็มีความสุขไม่แพ้กัน!