ชีวิตปลอดภัยด้วยการยืนยันตัวตนก่อนทำประกัน (e-KYC) | SE Life
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  ทำประกันชีวิตให้ปลอดภัยด้วยการยืนยันตัวตน (e-KYC)

ทำประกันชีวิตให้ปลอดภัยด้วยการยืนยันตัวตน (e-KYC)

23 พ.ย. 2565

เคยมั้ยเวลาที่สมัครบริการ หรือสมาชิกจะต้องกรอกข้อมูลเป็นจำนวนมาก ๆ โดยเฉพาะธุรกรรมที่ต้องทำใช้ข้อมูลที่จดจำยากอย่างเลขหลังบัตรประชาชน ทำให้เราต้องเสียเวลาหาบัตรใหม่ทุกครั้ง และยิ่งธุรกรรมเหล่านั้นเราต้องทำอยู่เป็นประจำ วันนี้เราจึงขอเสนอบริการใหม่จากอาคเนย์ประกันชีวิตที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป โดยการ “ให้ดีไลฟ์รู้จักคุณมากขึ้น” ด้วยการยืนยันตัวตน e-KYC ที่นอกจากจะช่วยให้ชีวิตปลอดภัยไร้ความเสี่ยงแล้ว ยังสามารถขอเอาประกันได้ง่าย ๆ และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

e-KYC คืออะไร ?

e-KYC (Electronic Know Your Customer) คือ กระบวนการในการทำความรู้จักลูกค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถระบุตัวตน (Identification) และพิสูจน์ตัวตน (Verification) ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กำหนดให้สถาบันการเงินมีหน้าที่ในการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า ซึ่งบริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) “บริษัท” ถือเป็นสถาบันการเงิน จะต้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงของลูกค้าก่อนทำธุรกรรมว่าเป็นบุคคลรายนั้นจริง และปรับปรุงข้อมูลต่างๆ ให้เป็นปัจจุบันและสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการรู้จักตัวตนของลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และมีความปลอดภัยตามนโยบายของบริษัท
การยืนยันตัวตนแบบ e-KYC เป็นมาตรฐานความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่เข้ามาทดแทนกระบวนการKnow You Customer (KYC) หรือ การทำความรู้จักลูกค้าในรูปแบบเดิมที่มีความยุ่งยาก เสียเวลา เพราะลูกค้าต้องกรอกข้อมูล ส่งเอกสารระบุตัวตน และต้องเดินทางไปแสดงตัวตนด้วยตนเองต่อหน้าเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนประกันชีวิตแบบพบหน้า (Face-to-Face)

ทำไมต้องทำ e-KYC ?

ปัจจุบันมีการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำมาใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน หรือใช้แอบอ้างหลอกลวงบุคคลอื่นจนให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และเพื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพเหล่านี้ บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ป้องกันการแอบอ้างตัวตน และการโจรกรรมข้อมูล ด้วยระบบที่ได้มาตรฐาน และสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้แม่นยำ ทำให้ยากต่อการปลอมแปลงข้อมูลต่าง ๆ อีกทั้งยังรองรับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ช่วยลดภาระการเดินทางของลูกค้า และเพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการทำธุรกรรมครั้งต่อไป โดย e-KYC ที่ได้รับความนิยมหลัก ๆ ในไทยมี 2 ประเภทดังนี้

1. Biometric Authentication
เป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยเพื่อการยืนยันตัวตนของผู้ทำธุรกรรมว่ามีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลนั้น ๆ หรือไม่ โดยใช้ข้อมูลทางชีวภาพของเจ้าของข้อมูลในการอ้างอิง และป้องกัน เช่น ลายนิ้วมือ ม่านตา การจดจำใบหน้า เสียงพูด หรือข้อมูลอื่น ๆ จากร่างกายที่สามารถระบุได้ว่าเป็นคนนั้นจริง ๆ โดยที่ไม่ใช่ผู้อื่นที่มาแอบอ้างเพื่อมาเข้าถึงหรือขโมยข้อมูลไปใช้ มักพบได้ในแอปธุรกรรมทางการเงินอย่างธนาคาร หรือคริปโต

2. National Digital ID (NDID)
เป็น Platform กลางของประเทศไทยในการสร้างระบบพิสูจน์ยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ที่มักใช้เพื่อขอสมัครหรือใช้บริการต่าง ๆ จากองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น การเปิดสมุดบัญชีธนาคาร การยื่นภาษีออนไลน์ การขอสินเชื่อ เป็นต้น ด้วยการเก็บข้อมูลที่ระบุอัตลักษณ์ของแต่ละบุคคลไว้ ตั้งแต่การขอสมัครใช้บริการครั้งแรก และนำข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้นมาสร้างระบบเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างองค์กรต่างๆ เพื่อสร้างมาตรฐานการพิสูจน์และการยืนยันตัวตนให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้รับความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการทำธุรกรรมครั้งถัดไป

ใครบ้างที่ต้องทำ D-Life ?

  • ผู้เอาประกันภัย ที่บรรลุนิติภาวะ หรือมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  • ผู้ปกครอง ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยยังไม่บรรลุนิติภาวะ
  • ผู้ชำระเบี้ยประกันภัย กรณีผู้เอาประกันภัยหรือผู้ปกครองไม่ได้เป็นผู้ชำระเบี้ยฯ
  • ผู้รับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ ในเวลาที่ได้รับเงิน หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ตามกรมธรรม์ประกันชีวิต

ประโยชน์จากการทำ D-Life

  • “ดี” ที่คุณสามารถมั่นใจได้ เรื่องความปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล หรือแอบอ้างตัวตนของลูกค้า รวมถึงความปลอดภัยเพิ่มเติมจากระบบเทคโนโลยีจดจำและเรียนรู้ใบหน้า (Biometric Facial Recognition) และการยืนยันตัวตนด้วยตัวเองผ่านข้อความ SMS หรือ อีเมลของคุณ
  • “ดี” ตรงช่วยให้เข้าถึงบริการจากตัวแทนประกันชีวิตมากยิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว ทันใจ และลดขั้นตอนในการกรอกข้อมูลหลาย ๆ ครั้ง
  • “ดี” สามารถทำธุรกรรมการเงินแบบไร้สัมผัส ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของลูกค้าได้ทุกที่ ไม่ต้องเดินทาง และตลอดเวลาที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ ทำให้สามารถยืนยันตัวตนแบบไม่ต้องพบปะเจอหน้าได้ (Non-Face-to-Face)
  • “ดี” ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถยืนยันตัวตน หรือใช้บริการ D-Life ได้ฟรี!

สิ่งที่ต้องเตรียมสําหรับการใช้บริการ D-Life

  • เป็นผู้มีสิทธิหรือเป็นผู้ถือกรมธรรม์ตัวจริง
  • เตรียมบัตรประชาชนที่แสดงข้อมูลครบถ้วนชัดเจน และยังไม่หมดอายุ
  • โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่มีกล้องถ่ายรูป และอินเทอร์เน็ต
  • อยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอต่อการถ่ายรูป

ช่องทางการยืนยันตัวตนผ่าน D-Life

  • ผ่านตัวแทนประกันชีวิตของอาคเนย์ประกันชีวิต ด้วยระบบ D-Life
  • ผ่านช่องทางการขายพันธมิตรของอาคเนย์ประกันชีวิต ที่รองรับระบบ D-Life
  • ผ่านลิงก์จาก SMS และอีเมล ของอาคเนย์ประกันชีวิต

 

 

ขั้นตอนการยืนยันตัวตนผ่าน D-Life สำหรับลูกค้า

  1. กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS หรืออีเมล ภายในระยะเวลา X ชั่วโมง
  2. ตรวจสอบเอกสารข้อเสนอและใบคําขอเอาประกัน กดปุ่ม "เริ่มทําการยืนยันตัวตน"
  3. กดปุ่ม "ถ่ายหน้าบัตรประชาชน" และอัปโหลด (ด้านหน้า-หลัง) เพื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง
    *ผู้เอาประกันอายุไม่ถึง 20 ปี (ผู้เยาว์) ให้ภาพถ่ายด้านหน้าบัตรประชาชน (ผู้ชำระเบี้ย)
  4. กรอกเลขหลังบัตรประชาชน กด "ถัดไป" และตรวจสอบข้อมูล กด "ยืนยัน"
  5. ถ่ายภาพหน้าตรงคู่กับบัตรประชาชน เพื่อใช้ยืนยันตัวตน และกดปุ่ม "ยืนยัน"
    *กรณีผู้เยาว์มีบัตรประชาชน ถ่ายหน้าตรงผู้เยาว์คู่กับบัตรประชาชน
  6. ตรวจสอบข้อมูลแล้วกด "ถัดไป"
  7. ลงนามอิเล็กทรอนิกส์ผู้ขอเอาประกันและกดปุ่ม "ถัดไป" และกดขอรับ OTP
  8. กรอกรหัส OTP แล้วกดปุ่ม "ยืนยัน" หน้าจอจะขึ้น "ท่านทํารายการสําเร็จ"

 

อ้างอิง: [1], [2], [3]