รู้ก่อนร่างพัง! 7 โรคคนทำงานหนัก เสี่ยงสุขภาพพังไม่รู้ตัว พร้อมวิธีดูแล | SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต
 
Detail
Discount
Help

 >  บทความ  >  รู้ก่อนร่างพัง! ปวดคอ ปวดหลัง เสี่ยง 7 โรคทำงานหนัก พร้อมวิธีแก้

รู้ก่อนร่างพัง! ปวดคอ ปวดหลัง เสี่ยง 7 โรคทำงานหนัก พร้อมวิธีแก้

27 พ.ค. 2568

แชร์:

Facebook Icon Twitter Icon Line Icon

หมายชัดเจน เก็บเงินตั้งแต่เดือนแรกเพื่ออนาคตที่มั่นคง ตามคำแนะนำจากบทความ เช็กเงินเดือนเด็กจบใหม่ 2568 สายอาชีพไหนรุ่ง? พร้อมทริควางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงาน แต่ในขณะที่เรามุ่งมั่นกับเป้าหมายทางการเงิน บางครั้งเราก็อาจลืมไปว่า สุขภาพร่างกายคือสิ่งที่ต้องใช้อยู่กับอนาคตนั้นด้วยเช่นกัน อาการเล็ก ๆ อย่างปวดคอ ปวดหลัง เครียด หรือนอนไม่หลับ อาจเป็นสัญญาณของ “โรคเงียบ” ที่มาจากการทำงานหนักโดยไม่พัก บทความนี้จะพาคุณรู้จัก 7 โรคที่แฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของคนทำงาน เพื่อเตือนให้คุณไม่ลืมดูแลตัวเองไปพร้อมกับความสำเร็จ

 

1. ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

หนึ่งในโรคยอดฮิตของคนทำงานออฟฟิศที่ต้องนั่งหน้าจอวันละหลายชั่วโมง ท่าทางซ้ำ ๆ ทุกวันโดยไม่ลุกเปลี่ยนท่าหรือขยับร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อบางจุดทำงานหนักเกินไป

อาการ:

ปวดคอ ปวดหลัง ไหล่แข็ง ตึงบริเวณบ่า ชาแขน นิ้วล๊อก หรือปวดศีรษะจากความตึงของกล้ามเนื้อ บางรายอาจลามไปถึงอาการเวียนหัว นอนไม่หลับ หรือเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว

วิธีแก้:

  • ลุกยืนหรือเปลี่ยนอิริยาบถทุก ๆ 30–60 นาที
  • จัดโต๊ะทำงานให้เหมาะกับสรีระ
  • ยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ ระหว่างวัน
  • พิจารณาพบแพทย์หรือนักกายภาพหากมีอาการเรื้อรัง
 

2. ภาวะความเครียดเรื้อรัง (Chronic Stress)

ความเครียดอาจดูเหมือนเรื่องปกติของคนทำงาน แต่เมื่อสะสมมากเกินไปจนกลายเป็นความเครียดเรื้อรัง ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ 13 โรคร้าย โดยที่เราไม่รู้ตัว

อาการ:

อารมณ์ขึ้นลงง่าย เหนื่อยง่าย หงุดหงิด เบื่อหน่าย ไม่มีสมาธิ อาจมีอาการทางกายร่วม เช่น ปวดหัวเรื้อรัง หัวใจเต้นเร็ว หรือแน่นหน้าอก หากปล่อยไว้นานอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า หรือความผิดปกติของฮอร์โมน

วิธีแก้:

  • หาเวลาพักผ่อนหรือผ่อนคลายทุกวัน แม้เพียง 10–15 นาที
  • หลีกเลี่ยงการทำงานล่วงเวลาโดยไม่จำเป็น
  • นอนหลับให้เพียงพอ
  • หากรู้สึกไม่ไหว ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือแพทย์
 

การจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน แสงไฟจากคอมพิวเตอร์ และการใช้สายตาหนัก ร่วมกับความเครียด ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดไมเกรน

อาการ:

ปวดหัวข้างเดียวหรือสองข้างอย่างรุนแรง อาจมีคลื่นไส้ สายตามัว แพ้แสงหรือเสียงร่วมด้วย บางคนมีอาการเตือนล่วงหน้า เช่น เห็นแสงวูบวาบ หรือมือเท้าชา

วิธีแก้:

  • พักสายตาเป็นระยะ (เช่น กฎ 20-20-20 มองออกไปไกล 20 ฟุต ทุก 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที)
  • เลี่ยงอาหารกระตุ้นไมเกรน เช่น ชีส คาเฟอีนจัด หรือช็อกโกแลต
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ปรึกษาแพทย์หากไมเกรนถี่ขึ้น
 

4. โรคกรดไหลย้อนจากพฤติกรรมการทำงาน (GERD)

คนทำงานหลายคนมักทานอาหารไม่เป็นเวลา หรือรีบกินในช่วงพักสั้น ๆ จนเกิดภาวะกรดไหลย้อนโดยไม่รู้ตัว

อาการ:

แสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว เสียงแหบตอนเช้า กลืนลำบาก หรือแน่นท้อง หากเรื้อรัง อาจส่งผลถึงหลอดอาหารอักเสบ

วิธีแก้:

  • งดนอนทันทีหลังรับประทานอาหาร
  • ลดของทอด ของเผ็ด ชา กาแฟ
  • แบ่งมื้ออาหารให้ย่อยง่าย
  • หลีกเลี่ยงความเครียด
 

5. โรคอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome)

การนั่งทำงานนาน ขยับตัวน้อย และรับประทานอาหารตามใจปากโดยไม่ออกกำลังกาย อาจนำไปสู่ภาวะอ้วนลงพุง ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นตอของโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายชนิด

อาการ:

รอบเอวเพิ่ม น้ำหนักขึ้น ไขมันหน้าท้องสะสม อาจมีความดันสูง น้ำตาลในเลือดสูง หรือไขมันในเลือดผิดปกติ ในระยะยาวเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ

วิธีแก้:

  • ควบคุมอาหาร โดยเฉพาะแป้ง น้ำตาล และของทอด
  • เพิ่มกิจกรรมทางกาย เช่น เดินขึ้นบันได ยืดเส้นตอนพัก
  • จัดตารางออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์
  • ตรวจสุขภาพประจำปี
 

6. ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome)

ทำงานหนักเกินไปโดยไม่มีเวลาพัก หรือรู้สึกว่าไม่มีความหมายในสิ่งที่ทำ อาจนำไปสู่ภาวะหมดไฟ ที่ค่อย ๆ ทำลายสุขภาพจิตโดยไม่รู้ตัว

อาการ:

หมดแรง รู้สึกหมดไฟ เหนื่อยหน่ายกับงาน เบื่อหน่ายชีวิต ไม่มีแรงจูงใจ บางรายมีอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ หรือรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า

วิธีแก้:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ หาเวลาทำสิ่งที่ชอบ
  • แบ่งเวลาสำหรับตัวเอง ไม่ทำงานเกินกำลัง
  • พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  • จัดลำดับความสำคัญของงานใหม่
 

7. โรคกระดูกและข้อเสื่อมก่อนวัย

การนั่งผิดท่า ยกของผิดวิธี หรือนั่งไขว่ห้างนาน ๆ อาจเร่งให้กระดูกและข้อเสื่อมเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะในคนที่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุยังน้อย

อาการ:

ปวดข้อ เสียวเข่า ข้อเสียงดังเมื่อเคลื่อนไหว ข้อติดยึดหรือขยับลำบาก โดยเฉพาะหลังตื่นนอนหรืออยู่ท่าเดิมนาน ๆ

วิธีแก้:

  • หลีกเลี่ยงท่านั่งหรือท่ายืนที่ไม่ถูกต้อง
  • เสริมแคลเซียมในอาหาร และออกกำลังกายแบบมีแรงกระแทกน้อย เช่น ว่ายน้ำ โยคะ
  • ควบคุมน้ำหนักเพื่อลดแรงกดที่ข้อ
  • ตรวจสุขภาพกระดูกเมื่ออายุมากขึ้นหรือมีประวัติครอบครัว
 

อย่าปล่อยให้ร่างกายต้องแลกกับความสำเร็จ

แม้คุณจะกำลังสร้างอนาคตที่มั่นคงทางการเงิน แต่อย่าลืมว่า "สุขภาพในปัจจุบัน" คือสิ่งที่ต้องใช้เพื่อไปให้ถึงจุดนั้น หากเริ่มรู้สึกว่าร่างกายไม่เหมือนเดิม มีอาการบางอย่างในบทความนี้ อย่ารอให้สายเกินไป การเริ่มดูแลสุขภาพตัวเองตั้งแต่ตอนนี้คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด และเพราะโรคบางอย่างมาแบบไม่เตือนล่วงหน้า การมี ประกันสุขภาพดี ๆ คอยรองรับจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา พร้อมโฟกัสที่การพักฟื้นและกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่

SELife อาคเนย์ประกันชีวิต พร้อมอยู่เคียงข้างคุณในทุกจังหวะชีวิต ด้วยแผนประกันสุขภาพที่เข้าใจคนทำงาน ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน–ผู้ป่วยนอก ค่าห้อง ค่าผ่าตัด และการดูแลแบบเหมาจ่าย เพราะอนาคตที่ดี เริ่มจากสุขภาพที่ดีในวันนี้