ป้องกันตนเองอย่างไรให้ห่างไกลฝุ่น PM 2.5

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นแปัญหาที่เกิดได้จากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควันจากโรงงานอุตสาหกรรม การเผาตอซังข้าวโพด และการปล่อยไอเสียจากรถยนต์ ทำให้เกิดปริมาณฝุ่นในอากาศที่สูงขึ้น ซึ่งฝุ่นเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย หากไม่มีการป้องกันที่ดีอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาวได้ บทความนี้จะชวนทุกคนไปดูกันว่ามีวิธีการป้องกันฝุ่นอย่างไรบ้าง

ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน เป็นขนาดที่เล็กมาก ๆ จนสามารถแพร่กระจายเข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจ และกระแสเลือดของมนุษย์ได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงที่ความกดอากาศต่ำ อากาศไม่ถ่ายเท ฝุ่นก็จะมีความหนาแน่นมากขึ้น หากได้รับฝุ่นที่สะสมในปริมาณมาก จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ซึ่งผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 นั้นมีทั้งผลกระทบระยะสั้น และผลกระทบระยะยาว ดังนี้

• ผลกระทบจากฝุ่นในระยะสั้น ในช่วงที่ฝุ่นมีความหนาแน่น อาจทำให้ร่างกายเกิดการระคายเคือง หายใจได้ลำบาก เกิดผื่นภูมิแพ้ แสบจมูก และเกิดอาการไอ 
• ผลกระทบจากฝุ่นในระยะยาว เมื่อร่างกายได้รับฝุ่นในปริมาณที่มากอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีวิธีการป้องกัน อาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ มะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง และปัญหาโรคในระบบทางเดินหายใจ

7 วิธีป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 

ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นโมเลกุลขนาดเล็ก หากมีการสูดดมเข้าไปสะสมในร่างกายจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ ดังนั้นเราควรมีวิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับฝุ่นมากเกินไป สำหรับวิธีป้องกันที่สามารถทำได้ มีดังนี้

1. สวมหน้ากากที่สามารถป้องกันทางเดินหายใจได้

การสวมใส่หน้ากากถือเป็นวิธีการป้องกันฝุ่นขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะในช่วงที่มีปริมาณฝุ่นหนามาก ๆ ควรสวมใส่ทุกครั้งที่ต้องออกพื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งการสวมใส่หน้ากากควรเลือกหน้ากากอนามัยประเภท N95 ขึ้นไป เพราะมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นได้มากถึง 95% และต้องสวมใส่หน้ากากให้ถูกต้อง โดยสวมให้แนบชิด กระชับกับใบหน้า เพื่อช่วยให้กรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

2. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ

เครื่องกรองอากาศ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สำหรับเครื่องฟอกอากาศนั้นจะมีหลักในการทำงานแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีทั้งการทำหน้าที่ในการปล่อยประจุลบออกมา เพื่อช่วยให้จับประจุบวกในอากาศ ช่วยให้ฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาดเล็กนั้นรวมกันเป็นขนาดใหญ่ และตกลงสู่พื้นโดยที่ไม่ทำให้เกิดการฟุ้งกระจาย หรือจะเป็นระบบการกรองที่เครื่องจะทำการดูดอากาศเข้าไปในเครื่อง เพื่อฝุ่นในอากาศผ่านตัวกรองชั้นต่าง ๆ ช่วยในการดักจับฝุ่นละออง และปล่อยอากาศที่มีความบริสุทธิ์ออกมา สำหรับเครื่องฟอกอากาศเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถป้องกันฝุ่นในบ้านได้เป็นอย่างดี

3. ลดกิจกรรมกลางแจ้ง

การทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีปริมาณฝุ่นจำนวนมาก จะยิ่งทำให้ร่างกายได้รับฝุ่นสะสมเยอะขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เลือกทำกิจกรรมในอาคารที่ปิดสนิทมากกว่า เพื่อลดการรับฝุ่นในปริมาณที่มาก หรือในกรณีที่จำเป็นต้องออกไปทำธุรข้างนอกควรสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นได้

4. ปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน

ต้นไม้ฟอกอากาศเป็นต้นไม้ที่มีส่วนช่วยในการดูดซับสารพิษต่าง ๆ ภายในบ้าน ช่วยให้บ้านนั้นมีอากาศที่บริสุทธิ์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มให้บรรยากาศภายในบ้านมีความสดชื่นอีกด้วย แต่ก่อนที่จะเลือกต้นไม้ฟอกอากาศมาปลูกนั้นควรเลือกพันธุ์ที่เหมาสะสมกับสภาพอากาศเมืองไทย เพื่อช่วยให้เจริญเติบโตได้ดี 

5. หลีกเลี่ยงการเผาไหม้ทุกรูปแบบ

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 หลัก ๆ แล้วมาจากการเผาไหม้ ทั้งการเผาไหม้ระดับโรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้เชื้อเพลิงจากการขับรถ รวมถึงการเผาไร่ เผาป่า และการเผาไหม้จากการจุดธูป เผาใบไม้ ในช่วงที่ปริมาณฝุ่นเยอะ ๆ จึงควรหลีกเลี่ยงการเผาไหม้ทุกชนิด เพื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองมากขึ้น

6. หมั่นทำความสะอาดบ้าน

ฝุ่นละออง PM 2.5 เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วก็จะจับตัวตามม่าน ผนัง และเครื่องใช้ต่าง ๆ ดังนั้นควรหมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของฝุ่น อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปริมาณฝุ่นภายในบ้านได้เป็นอย่างดี โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาด ที่สำคัญหลีกเลี้ยงการกวาดเพราะจะยิ่งทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายมากขึ้น 

7. ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท

อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 คือการปิดประตูบ้าน และหน้าต่างให้สนิททุกครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่มีปริมาณฝุ่นสูง ไม่ควรเปิดประตูหน้าต่างเพื่อรับลมเลย ควรปิดให้สนิท เพื่อไม่ให้ฝุ่นลอยเข้ามาภายในบ้าน

สรุปบทความ

ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเพียง 2.5 ไมครอน ซึ่งมีขนาดที่เล็กมากจนร่างกายไ่ม่สามารถกรองได้ เมื่อมีการสูดดมเข้าไปก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทำให้เกิดการระคายเคือง ทั้งแสบจมูก หายใจไม่ออก และเกิดผื่นคัน หากได้รับฝุ่นต่อเนื่องเป็นเวลานานก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคหอบหืด โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ และบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งปอดได้ การซื้อประกันสุขภาพดี ๆ ติดไว้สักตัวก็จะช่วยให้รู้สึกอุ่นใจ หากเกิดเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมา ไม่ว่าจะเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือเจ็บป่วยหนัก ก็หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ที่สำคัญก่อนซื้อประกันสุขภาพควรศึกษาเงื่อนไข และกรมธรรม์ให้ดี เพื่อที่จะได้ประกันสุขภาพที่มีความเหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง

SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต มีประกันหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกตามเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และ ประกันออมทรัพย์ สามารถขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ตัวแทน หรือสนใจ ซื้อประกันออนไลน์ สามารถติดตามข่าวสาร SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต ได้ที่ Facebook SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต, LINE Official @THAIGROUP และ Call Center โทร 0 2255 5656